การสัมมนาเครือข่ายอาสาสมัครช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ได้ยากและเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ในมาเลเซีย ครั้งที่ ๒ ประจำปี ๒๕๕๔
08 กันยายน 2554 13:38:47
วันที่ ๒๕ - ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๔ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้จัดสัมมนา "เครือข่ายอาสาสมัครช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ได้ยากและเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ในมาเลเซีย" ต่อยอดจากการสัมมนา ครั้งที่ ๑ ในปี ๒๕๕๓ เพื่อให้เครือข่ายอาสาสมัครที่พำนักในมาเลเซียที่มีความพร้อม และมีจิตอาสาที่จะช่วยเหลือคนไทย ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ให้มีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น รับรู้ปัญหาวิธีการของขบวนการค้ามนุษย์ในมาเลเซีย การสัมมนาฯ ได้เชิญวิทยากรจากหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานด้านคุ้มครอง ป้องกัน ช่วยเหลือเหยื่อจากขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งเด็ก สตรี และแรงงาน จากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย อาทิ สำนักป้องกันปัญหาการค้าหญิงและเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ศูนย์ธารชีวิตของคณะภคิณีศรีชุมพาบาล เมืองพัทยา หน่วยประสานงานเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ภาคเหนือตอนบน (TRAFCORD) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และวิทยากรจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แก่ นายทรงศัก สายเชื้อ อัครราชทูต นายสมพงษ์ กางทอง อัครราชทูตที่ปรึกษา นายสุรพล เพชรวรา กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และนายชนสุต วุฒิวงศ์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง พ.ต.อ.ไมตรี สันตยากุล อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายตำรวจ) และ น.ส.ปางมาศ วิเชียรศิลป์ อัครราชทูตฝ่ายแรงงาน ที่ประชุมสัมมนาฯ ได้สรุปสาเหตุของปัญหาคนไทยตกทุกข์ในมาเลเซีย ซึ่งมีปัจจัยจากประเทศทั้งสองมีชายแดนติดต่อกัน ประชาชนเดินทางเข้า - ออกได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้การตรวจลงตรา รวมทั้งภาพลักษณ์ที่ดีของมาเลเซียในสายตาคนไทยบางกลุ่ม ที่เชื่อว่า มีความเจริญก้าวหน้ากว่าไทย ค่าเงินสูงกว่า และเป็นแหล่งขุดทองเหมือนในยุคที่มีการส่งแรงงานไทยออกไปนอกประเทศ ดังนั้น ความสะดวกในการเดินทางเข้ามาเลเซีย และการขาดความรู้ที่ถูกต้อง จึงนำไปสู่ปัญหา เช่น การทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต การพำนักในมาเลเซียเกินกำหนด และอาจถูกชักนำไปเกี่ยวข้องกับขบวนการขนยาเสพติดเข้ามาเลเซีย โดยตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม ๒๕๕๔ มีคนไทยถูกจับกุมแล้ว จำนวน ๓๓๙ ราย เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ๖๖ ราย ซึ่งในขณะนี้มีนักโทษไทยในคดียาเสพติด ที่ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต ๕ ราย (หญิง ๔ ราย) นักโทษที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี ที่มีบทลงโทษประหาร ๑๘ ราย จำคุกตลอดชีวิต ๑ ราย และมีนักโทษไทยเสียชีวิตในมาเลเซีย ๕ ราย โดยเป็นการเสียชีวิตในเรือนจำในปีนี้ ๔ ราย นอกจากนี้ ยังมีลูกเรือประมงถูกคุมขังอยู่ในรัฐซาราวัค รอการช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่งด้วย การช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ในมาเลเซียเป็นไปด้วยความยากลำบากและล่าช้า เนื่องจากข้อจำกัดของจำนวนเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ ทั้งสองแห่ง จึงเป็นการยากที่จะให้การช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว และต้องอาศัยความมีจิตอาสาของเครือข่ายคนไทย เป็นผู้แจ้งข่าวการช่วยเหลือในเบื้องต้น ดังนั้น เครือข่ายคนไทย จึงมีบทบาทสำคัญในการประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือคนไทย โดยในปัจจุบันมีอาสาสมัคร จำนวน ๔๐ คน ทั่วประเทศ ทั้งนี้ รูปแบบการให้ความช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ได้ยากที่ผ่านมา เป็นเพียงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาที่ปลายทาง ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องและถาวร ด้วยเหตุนี้ การให้ความรู้เชิงป้องกัน (Prevention) ที่ต้นทางจากประเทศไทย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการทำงานของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลในต่างประเทศ ที่ให้ความช่วยเหลือในรูปแบบการคุ้มครอง (Protection) ซึ่งทั้งไทยและมาเลเซียต้องร่วมกันนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายของแต่ละประเทศ (Prosecution) ต่อไป การสัมมนาฯ เป็นการนำวิทยากรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการเชิงป้องกัน จากประเทศไทย ไปรับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในมาเลเซีย และนำมาไปขยายผลเผยแพร่ ทำการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้เชิงป้องกันแก่คนไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อ หรือที่กำลังคิดจะเดินทางไปแสวงโชคในมาเลเซีย โดยมีผู้แทนจากพัทยา เมืองที่เป็นแหล่งทำงานของผู้หญิงในกลุ่มเสี่ยง ผู้แทนจากภาคเหนือและภาคใต้ โดย ศอ.บต. จะนำข้อมูลไปขยายผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ศอ.บต. ได้ตั้งคณะทำงานให้ความรู้เกี่ยวกับการไปทำงาน ในมาเลเซียอย่างถูกต้อง รวมถึง อาสาสมัครจากรัฐต่างๆ ยินดีที่จะนำข้อมูลไปเผยแพร่ตามร้านอาหารไทยในมาเลเซีย ซึ่งมีคนไทยทำงานอย่างผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก การสัมมนาฯ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากรัฐซาราวัค ยะโฮร์ เซรังงอร์ เคดาห์ ปีนัง กะลันตัน ตรังกานู กัวลาลัมเปอร์ ศอ.บต.พมจ.สงขลา สำนักงานหนังสือเดินทางสงขลาและยะลา รวม ๕๔ คน ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ เป็นไปตามเป้าหมายในการจุดประกายให้เครือข่ายอาสาสมัครเข้มแข็งมากขึ้น และเชื่อมต่อกับหน่วยงานจากส่วนกลาง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาปัญหาคนไทยตกทุกข์ได้ยากในมาเลเซีย http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=28036 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น